ต้นชาด

ต้นชาด



ข้อมูล
ราละเอียด
ภาพประกรอบ
ชื่อพฤกษาศาสตร์
Dipterocarpus tuberculatns Roxb.

วงศ์
DIPTEROCARPACEAE

ชื่อพื้นเมือง
กุง (อุบลราชธานี, อุดรธานี, ปราจีนบุรี) คลง (เขมร) คลอง (เขมร) ควง (พิษณุโลก, สุโขทัย) ตึง, ตึงขาว (ภาคเหนือ) พลวง, ยาง (ภาคกลาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ยางพลวง (ภาคกลาง) พลอง, แลเท้า (กะเหรี่ยง,แม่ฮ่องสอน)

ลักษณะทางนิเวศวิทยา
(การกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติ)
   ไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงถึง 20 เมตร กิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาลปกคลุมเล็กน้อยใบเป็นใบประกอบ bipinnate ใบย่อยรูปไข่หรือรูปข้าวหลามตัด ผิวท้องใบมีขนสั้นๆปกคลุม ขอบใบเรียบกว้าง 2-5 เซนติเมตร ยาว 3-10 เซนติเมตร ดอกดอกช่อออกที่ซอกใบใกล้ๆ ปลายกิ่ง จำนวน 1-3 ช่อต่อซอกใบ มักออกดอกพร้อมกับการผลิใบอ่อน ดอกย่อย มีกลีบเลี้ยง กลีบติดกันเป็นรูปถ้วย สีเขียวขอบถ้วยแยกเป็น แฉกกลีบดอก กลีบ สีเขียวแกมขาวติดกันเล็กน้อยที่ฐาน เกสรเพศผู้ มีจำนวน 10 อัน แยกกันอิสระ เกสรเพศเมีย อัน ผลและเมล็ดผลแห้งแบบlegume ขนาดกว้าง 2- 3.5 เซนติเมตรยาว 10-20 เซนติเมตร เมล็ดแบน

ชนิดป่าที่พบ
ป่าเบญจพรรณแล้ง ป่าเต็งรัง หรือป่าแดง ที่พบขึ้นอยู่ทุกภาคของประเทศไท

ลักษณทางวัฒนวิทยา
-ลำต้น / ลักษณเนื้อไม้
-ใบ
-ดอก
-ผล
ต้น ไม้ยืนต้นขนาดกลาง-ใหญ่ สูง 10-30 เมตร ผลัดใบ ลำต้นเปลาตรง เปลือกหนาสีน้ำตาลปนเทาอ่อน แตกเป็นร่องลึกไปตามยาวของลำต้น กิ่งอ่องเกลี้ยงหรือเกือบเกลี้ยง มีรอยแผลใบเห็นชัด
ใบ   เดี่ยว เรียงเวียนสลับ ใบรูปไข่กว้างขนาด 15-28 X 15-40 ซ.ม. โคนใบแผ่กว้าง แล้วหยักเว้า ปลายใบสอบทู่ เนื้อใบหนาเกลี้ยงหรืออาจมีขนกระจายห่างๆบ้าง ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นบ้างเล็กน้อย ก้านใบยาว 3-30 ซ.ม.
ดอก  ออกเป็นช่อตามง่ามใบ ตอนปลายกิ่ง มีกาบหุ้มช่อดอกรูปขอบขนานแคบๆ หนึ่งกาบ กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกัน ปลายแยก 5 แฉก กลีบดอกมี 5 กลีบ ปลายกลีบบิดตามเข็มนาฬิกาเหมือนกังหัน ก่อนออกดอกจะทิ้งใบหมดหรือเกือบหมด
สี  ชมพู-ชมพูเข้ม ขอบกลีบสีขาว
กลิ่น  –
ออกดอก  เดือน ธ.ค.-เม.ย.
ผล  เป็นรูปกรวย มีสันด้านข้างผล 5 สัน และพองโตเป็นติ่ง 5 ติ่งตรงที่ติดกับโคนปีก มีปีกยาว 2 ปีก ยาว 10-15 ซ.ม. มีเส้นปีกตามยาว 3 เส้น

การขยายพันธุ์
เพาะเมล็ด

ช่วงเวลาออกดอก-ผล
 เดือน ธ.ค.-เม.ย.

การใช้ประโยชน์และความสำคัญ
เนื้อไม้ใช้ก่อสร้าง





ความคิดเห็น